Size: 4102
Comment: Edit contents to make reading easier.
|
← Revision 5 as of 2009-05-19 19:30:55 ⇥
Size: 4115
Comment: converted to 1.6 markup
|
Deletions are marked like this. | Additions are marked like this. |
Line 3: | Line 3: |
''(บทนี้เป็นบทที่ 6 จาก 9 บทของ[:ThaiTutorial:บทเรียนการใช้งาน Mercurial] บทก่อนหน้าคือ [:ThaiTutorialShareChange:แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับ repository อื่น], บทถัดไปคือ [:ThaiTutorialMerge:รวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่น])'' | ''(บทนี้เป็นบทที่ 6 จาก 9 บทของ[[ThaiTutorial|บทเรียนการใช้งาน Mercurial]] บทก่อนหน้าคือ [[ThaiTutorialShareChange|แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับ repository อื่น]], บทถัดไปคือ [[ThaiTutorialMerge|รวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่น]])'' |
Line 5: | Line 5: |
ใน[:ThaiTutorialShareChange:บทที่แล้ว]เราได้เรียนวิธีดึงประวัติการแก้ไขจากอีก repository นึง นอกจากวิธีการดึงแล้ว Mercurial ยังมีวิธีอื่นในการแบ่งปันการแก้ไขของเรากับคนอื่นด้วย โดยวิธีที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดก็คือผ่านอีเมล์ | ใน[[ThaiTutorialShareChange|บทที่แล้ว]]เราได้เรียนวิธีดึงประวัติการแก้ไขจากอีก repository นึง นอกจากวิธีการดึงแล้ว Mercurial ยังมีวิธีอื่นในการแบ่งปันการแก้ไขของเรากับคนอื่นด้วย โดยวิธีที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดก็คือผ่านอีเมล์ |
Line 7: | Line 7: |
หลังจากที่เรา[:Commit:คอมมิท]การแก้ไขแล้วเราสามารถ[:Export:ส่งออก]การแก้ไขไปที่ไฟล์ จากนั้นก็แนบไฟล์ดังกล่าวในอีเมล์และส่งอีเมล์ให้คนที่เราต้องการแบ่งปันด้วย | หลังจากที่เรา[[Commit|คอมมิท]]การแก้ไขแล้วเราสามารถ[[Export|ส่งออก]]การแก้ไขไปที่ไฟล์ จากนั้นก็แนบไฟล์ดังกล่าวในอีเมล์และส่งอีเมล์ให้คนที่เราต้องการแบ่งปันด้วย |
Line 9: | Line 9: |
คำสั่งสำหรับส่งออกการแก้ไขคือ `export` ในการใช้คำสั่งนี้เราจะต้องระบุป้ายกำกับ, [:RevisionNumber:เลขที่ของครั้งที่แก้ไข] หรือ [:ChangeSetID:รหัสประจำเซ็ตการแก้ไข]เพื่อบอก Mercurial ว่าเราต้องการส่งออกอะไร สมมุติว่าเราต้องการส่งออก[:Tip:ส่วนปลาย]ของ repository `my-hello-share` เราสามารถทำได้โดยพิมพ์ | คำสั่งสำหรับส่งออกการแก้ไขคือ `export` ในการใช้คำสั่งนี้เราจะต้องระบุป้ายกำกับ, [[RevisionNumber|เลขที่ของครั้งที่แก้ไข]] หรือ [[ChangeSetID|รหัสประจำเซ็ตการแก้ไข]]เพื่อบอก Mercurial ว่าเราต้องการส่งออกอะไร สมมุติว่าเราต้องการส่งออก[[Tip|ส่วนปลาย]]ของ repository `my-hello-share` เราสามารถทำได้โดยพิมพ์ |
Line 32: | Line 32: |
โดยปกติคำสั่ง `export` จะแค่แสดง patch เพราะฉะนั้นเราจะต้อง redirect ผลลัพธ์ของคำสั่งนี้ไปที่ไฟล์ (หรือใช้ตัวเลือก -o แทน) ไฟล์นี้คือ [:PatchFile:ไฟล์ patch] ที่มีเนื้อหาในรูปแบบ [:UnifiedDiff:unified diff] พร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยที่บอก Mercurial ว่าจะต้อง[:Import:นำเข้า]ไฟล์ยังไง | โดยปกติคำสั่ง `export` จะแค่แสดง patch เพราะฉะนั้นเราจะต้อง redirect ผลลัพธ์ของคำสั่งนี้ไปที่ไฟล์ (หรือใช้ตัวเลือก -o แทน) ไฟล์นี้คือ [[PatchFile|ไฟล์ patch]] ที่มีเนื้อหาในรูปแบบ [[UnifiedDiff|unified diff]] พร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยที่บอก Mercurial ว่าจะต้อง[[Import|นำเข้า]]ไฟล์ยังไง |
Line 36: | Line 36: |
บทต่อไปจะอธิบายการ[:ThaiTutorialMerge:รวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่น]repository | บทต่อไปจะอธิบายการ[[ThaiTutorialMerge|รวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่น]]repository |
บทเรียน - แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับบุคคลอื่นๆ
(บทนี้เป็นบทที่ 6 จาก 9 บทของบทเรียนการใช้งาน Mercurial บทก่อนหน้าคือ แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับ repository อื่น, บทถัดไปคือ รวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่น)
ในบทที่แล้วเราได้เรียนวิธีดึงประวัติการแก้ไขจากอีก repository นึง นอกจากวิธีการดึงแล้ว Mercurial ยังมีวิธีอื่นในการแบ่งปันการแก้ไขของเรากับคนอื่นด้วย โดยวิธีที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดก็คือผ่านอีเมล์
หลังจากที่เราคอมมิทการแก้ไขแล้วเราสามารถส่งออกการแก้ไขไปที่ไฟล์ จากนั้นก็แนบไฟล์ดังกล่าวในอีเมล์และส่งอีเมล์ให้คนที่เราต้องการแบ่งปันด้วย
คำสั่งสำหรับส่งออกการแก้ไขคือ export ในการใช้คำสั่งนี้เราจะต้องระบุป้ายกำกับ, เลขที่ของครั้งที่แก้ไข หรือ รหัสประจำเซ็ตการแก้ไขเพื่อบอก Mercurial ว่าเราต้องการส่งออกอะไร สมมุติว่าเราต้องการส่งออกส่วนปลายของ repository my-hello-share เราสามารถทำได้โดยพิมพ์
$ hg export tip # HG changeset patch # User mpm@selenic.com # Date 1209943246 -7200 # Node ID 86794f718fb1ea9e633f7c052757663b8ce90e30 # Parent 82e55d328c8ca4ee16520036c0aaace03a5beb65 Express great joy at existence of Mercurial diff -r 82e55d328c8c -r 86794f718fb1 hello.c --- a/hello.c Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700 +++ b/hello.c Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 @@ -12,5 +12,6 @@ int main(int argc, char **argv) { printf("hello, world!\n"); + printf("sure am glad I'm using Mercurial!\n"); return 0; }
โดยปกติคำสั่ง export จะแค่แสดง patch เพราะฉะนั้นเราจะต้อง redirect ผลลัพธ์ของคำสั่งนี้ไปที่ไฟล์ (หรือใช้ตัวเลือก -o แทน) ไฟล์นี้คือ ไฟล์ patch ที่มีเนื้อหาในรูปแบบ unified diff พร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยที่บอก Mercurial ว่าจะต้องนำเข้าไฟล์ยังไง
เมื่อผู้รับได้รับอีเมล์ของเรา เค้าจะต้องบันทึกไฟล์ที่แนบมาและใช้คำสั่ง import เพื่อนำเข้าเซ็ตการแก้ไขใน repository ของตัวเอง
บทต่อไปจะอธิบายการรวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่นrepository