บทเรียน - รวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่น
(บทนี้เป็นบทที่ 7 จาก 9 บทของบทเรียนการใช้งาน Mercurial บทก่อนหน้าคือ แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับบุคคลอื่นๆ, บทถัดไปคือ รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน)
ในบทที่แล้วเราได้เรียนวิธีการแบ่งปันการแก้ไขกับบุคคลอื่นโดยการส่งออกการแก้ไข ในบทนี้เราจะเรียนรู้วิธีการรวมการแก้ไขโดยการดึงการแก้ไขจาก repository อื่น
ก่อนอื่นเราจะต้องสร้าง repository สำหรับเป็นที่รวมการแก้ไขซะก่อนโดยทำสำเนา repository my-hello อีกครั้ง:
$ cd .. $ hg clone my-hello my-hello-desc updating working directory 2 files updated, 0 files merged, 0 files removed, 0 files unresolved
เราจะแก้ไฟล์ hello.c โดยเพิ่มคำอธิบายในส่วนคอมเม้นต์
$ cd my-hello-desc $ vi hello.c
เปลี่ยนบรรทัดที่สองจาก:
* hello.c
เป็น:
* hello.c - hello, world
จากนั้นเราต้องบันทึกและปิดโปรแกรม editor และคอมมิทการแก้ไขของเรา ครั้งนี้เราจะประหยัดเวลาลงหน่อยโดยการใช้ตัวเลือก -m กับคำสั่ง commit เพื่อใส่คำอธิบายของเซ็ตการแก้ไขที่เราจะคอมมิทเลยแทนที่จะใช้โปรแกรม editor:
$ hg commit -m "Add description of hello.c"
ตอนนี้ไฟล์ hello.c ใน repository my-hello-new-output และ repository my-hello-desc ต่างก็ถูกแก้ไข เราจะรวมการแก้ไขที่แตกต่างกันในสอง repository นี้ยังไงล่ะ? และจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าถ้าเราต้องการดึงประวัติการเปลี่ยนแปลงจาก repository นึงไปอีก repository นึง?
ไม่ต้องห่วง การทำแบบนี้จะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ตอนนี้ระหว่างที่เราอยู่ใน my-hello-desc เรามาลองดึงประวัติการแก้ไขจาก my-hello-new-output และดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น:
$ hg pull ../my-hello-new-output pulling from ../my-hello-new-output searching for changes adding changesets adding manifests adding file changes added 1 changesets with 1 changes to 1 files (+1 heads) (run 'hg heads' to see heads, 'hg merge' to merge)
Mercurial บอกว่ามันได้เพิ่มส่วนยอดอีกอันนึงใน repository ของเรา ถ้าเราอยากดูส่วนยอดทั้งหมดเราต้องใช้คำสั่ง heads:
$ hg heads changeset: 3:86794f718fb1 tag: tip parent: 1:82e55d328c8c user: mpm@selenic.com date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 summary: Express great joy at existence of Mercurial changeset: 2:c3844fde99f0 user: mpm@selenic.com date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 summary: Add description of hello.c
ถ้าคุณสนใจ Mercurial มาพร้อมกับส่วนเพิ่มความสามารถที่สามารถแสดงกราฟประวัติการแก้ไขของ repository ในแบบ ASCII ได้นั่นก็คือ: GraphlogExtension คุณเพียงแค่ต้องเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้ในไฟล์ ~/.hgrc ของคุณ (หรือในไฟล์ Mercurial.ini ในวินโดวส์) โดยเพิ่มบรรทัด hgext.graphlog = ในส่วน [extensions] แบบนี้:
[extensions] hgext.graphlog =
หลังจากคุณเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้แล้วคุณจะสามารถใช้คำสั่งใหม่คือ glog ได้ทันที (ลองดู hg help glog):
$ hg glog o changeset: 3:86794f718fb1 | tag: tip | parent: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 | summary: Express great joy at existence of Mercurial | | @ changeset: 2:c3844fde99f0 |/ user: mpm@selenic.com | date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 | summary: Add description of hello.c | o changeset: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700 | summary: Create a makefile | o changeset: 0:0a04b987be5a user: mpm@selenic.com date: Fri Aug 26 01:20:50 2005 -0700 summary: Create a standard "hello, world" program
ในกราฟด้านบนคุณจะเห็นว่าเราได้ดึงเซ็ตการแก้ไข 86794f718fb1 เข้ามาใน repository (ซึ่งก็เป็นส่วนปลายของ repository ด้วย) เนื่องจากว่าทั้งเซ็ตการแก้ไข 86794f718fb1 และ c3844fde99f0 ของเราถูกคอมมิทโดยมีเซ็ตการแก้ไขบรรพบุรุษเดียวกันคือ 82e55d328c8c จึงเกิดกิ่งการแก้ไขที่แยกจากกัน ในตัวอย่างนี้กิ่งแต่ละกิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างสั้น การจัดการกับการแตกกิ่งแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากใน Mercurial
ระหว่างที่ดูผลลัพธ์ของคำสั่ง pull คุณอาจจะคิดว่ามันก็ดูคล้ายๆกับผลลัพธ์ในบทแบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับ repository อื่นนี่นา เพราะอย่างนั้นคุณอาจจะถามว่า: ทำไมไม่ลองใช้คำสั่ง update เลยล่ะ? ไม่มีปัญหา เรามาลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทำอย่างที่ว่า:
$ hg update abort: update spans branches, use 'hg merge' or 'hg update -C' to lose changes
โอ๊ะโอ มีบางอย่างที่แตกต่างไปแล้ว อย่างที่คุณเห็น Mercurial ระมัดระวังและพยายามที่จะไม่ทำอะไรแย่ๆถ้าเราไม่ทันเห็นสถานะ "(+1 heads)" ตรงท้ายๆผลลัพธ์ของคำสั่ง pull Mercurial จะเตือนเราดีๆว่าเราน่าจะทำอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งในกรณีนี้ก็คือเราน่าจะรวมประวัติการแก้ไข
ก่อนที่เราจะรวมประวัติการแก้ไขเรามาตรวจสอบกันก่อนดีกว่าว่าตอนนี้เรากำลังทำงานอยู่กับ changeset ไหนโดยใช้คำสั่ง parents (ดู บรรพบุรุษ):
$ hg parents changeset: 2:c3844fde99f0 user: mpm@selenic.com date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 summary: Add description of hello.c
คำสั่งนี้บอกเราว่าตอนนี้ไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราตรงกับเซ็ตการแก้ไข c3844fde99f0 อยู่ – ซึ่งก็แน่นอนเพราะว่านั่นเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งคอมมิทไป สิ่งสำคัญที่เราจะต้องเข้าใจก็คือ การดึงประวัติการแก้ไขเป็นการดึงมาเก็บไว้ที่ที่จัดเก็บประวัติของ repository เท่านั้น แต่ไม่ได้อัพเดทข้อมูลใดๆในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราเลยแม้แต่น้อย ลองดูผลลัพธ์ของคำสั่ง glog อีกทีสิ: มีเซ็ตการแก้ไขนึงที่ถูกให้สัญลักษณ์ด้วยเครื่องหมาย "@" นั่นก็หมายความว่าเซ็ตการแก้ไขนั้นเป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่ที่เรากำลังทำงานอยู่ หรือจะพูดอีกแบบก็คือเรากำลังทำงาน"อยู่ตรง"เซ็ตการแก้ไข c3844fde99f0
โอเค อธิบายมาซะยาวจนเบื่อแล้ว เรามาลองรวมการแก้ไขกันเลยดีกว่า การรวมการแก้ไขฟังดูค่อนข้างยากเนอะ? แต่จริงๆแล้วมันเป็นอะไรที่ง่ายมาก ลองทำตามคำแนะนำจาก Mercurial ที่อยู่ในบรรทัดสุดท้ายของผลลัพธ์จากคำสั่ง pull ดู:
$ hg merge merging hello.c 0 files updated, 1 files merged, 0 files removed, 0 files unresolved (branch merge, don't forget to commit)
เรียบร้อย! Mercurial รวมการเปลี่ยนแปลงให้คุณโดยอัตโนมัติเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งสองนั้นไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย (เราจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีความขัดแย้งในบทถัดไป) ถ้าเราลองดูเนื้อหาของไฟล์ hello.c ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานเราจะเห็นว่าไฟล์มีเนื้อหาจากการเปลี่ยนแปลงที่มาจาก my-hello-new-output และ my-hello-desc ทั้งคู่ตามที่คาดไว้
โดยทั่วๆไป กรณีตัวอย่างนี้เป็นกรณีที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยเป็นอันดับสอง กรณีที่เกิดบ่อยที่สุดนั้นยิ่งง่ายกว่านี้อีก นั่นก็คือการแก้ไขทั้งสองที่ถูกรวมเป็นการแก้ไขที่เกิดขึ้นกับคนละไฟล์ ซึ่งก็หมายความว่าเวลาคุณใช้คำสั่ง merge จะไม่มีไฟล์อะไรที่จะต้องรวมเนื้อหาด้วยซ้ำ
ตอนนี้เรายังไม่ได้คอมมิทผลของการรวมการแก้ไข ก่อนที่เราจะทำลองมาดูกันว่าผลลัพธ์ของคำสั่ง parents จะเป็นยังไง (เราใช้คำสั่งย่อ par):
$ hg par changeset: 2:c3844fde99f0 user: mpm@selenic.com date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 summary: Add description of hello.c changeset: 3:86794f718fb1 tag: tip parent: 1:82e55d328c8c user: mpm@selenic.com date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 summary: Express great joy at existence of Mercurial
คำสั่งนี้บอกเราว่าไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเรานั้นมีเซ็ตการแก้ไขที่เป็นบรรพบุรุษสองเซ็ต โดยสังเกตุว่าบรรพบุรุษทั้งสองได้ถูกเรียงลำดับดังนี้: บรรพบุรุษแรก (parent 1) คือเซ็ตการแก้ไขก่อนหน้าของเรานั่นก็คือ c3844fde99f0 ที่เราเพิ่มคำอธิบายใน hello.c ซึ่งเซ็ตการแก้ไขนี้เป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราก่อนที่เราจะใช้คำสั่ง merge ส่วนบรรพบุรุษเซ็ตที่สอง (parent 2) คือ 86794f718fb1 ซึ่งเราได้ดึงมาจากอีก repository นึงและเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งรวมเข้าไป
ลองใช้คำสั่ง glog อีกทีแล้วเราจะเห็นว่าสัญลักษณ์ @ อยู่ที่บรรพบุรุษทั้งสองแล้ว:
$ hg glog @ changeset: 3:86794f718fb1 | tag: tip | parent: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 | summary: Express great joy at existence of Mercurial | | @ changeset: 2:c3844fde99f0 |/ user: mpm@selenic.com | date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 | summary: Add description of hello.c | o changeset: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700 | summary: Create a makefile | o changeset: 0:0a04b987be5a user: mpm@selenic.com date: Fri Aug 26 01:20:50 2005 -0700 summary: Create a standard "hello, world" program
หมายเหตุ: ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจและต้องการยกเลิกการรวมก่อนที่จะคอมมิทอะไร คุณจะต้องใช้คำสั่ง "hg update -C -r" เพื่อย้อนกลับไปที่ revision 2 การใช้คำสั่ง hg revert -r2 --all จะแค่ยกเลิกการรวมเนื้อหาของไฟล์ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของคุณ แต่จะ ไม่แก้ไขบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานกลับเป็นบรรพบุรุษเดียว (ดู Revert)
ขั้นตอนสุดท้ายก็อย่าลืมคอมมิทการแก้ไขในเครื่องของเราตามที่คำสั่ง merge ก่อนหน้าได้แนะนำให้เราทำ:
$ hg commit -m "Merged changes from my-hello-new-output"
คำสั่งนี้จะไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ การรวมไฟล์ได้ถูกบันทึกในที่จัดเก็บประวัติของ repository เป็นเซ็ทการแก้ไขรวมใหม่แล้ว และเราสามารถดูประวัติได้โดยใช้คำสั่ง glog:
$ hg glog @ changeset: 4:d2ecac0134d8 |\ tag: tip | | parent: 2:c3844fde99f0 | | parent: 3:86794f718fb1 | | user: mpm@selenic.com | | date: Tue May 06 23:44:19 2008 +0200 | | summary: Merged changes from my-hello-new-output | | | o changeset: 3:86794f718fb1 | | parent: 1:82e55d328c8c | | user: mpm@selenic.com | | date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 | | summary: Express great joy at existence of Mercurial | | o | changeset: 2:c3844fde99f0 |/ user: mpm@selenic.com | date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 | summary: Add description of hello.c | o changeset: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700 | summary: Create a makefile | o changeset: 0:0a04b987be5a user: mpm@selenic.com date: Fri Aug 26 01:20:50 2005 -0700 summary: Create a standard "hello, world" program
เรายังสามารถแสดงเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงในการรวมไฟล์โดยใช้คำสั่ง annotate เพื่อแสดงข้อมูลของเซ็ตการแก้ไขในแต่ละบรรทัดของไฟล์ได้ หมายเหตุ: การแก้ไขครั้งที่ 2 คือการแก้ไขที่เราทำกับ repository my-hello-desc และการแก้ไขครั้งที่ 3 คือการแก้ไขที่เราดึงมาจาก my-hello-new-output เพื่อรวมเข้าไปกับ repository my-hello-desc
$ hg annotate hello.c 0: /* 2: * hello.c - hello, world 0: * 0: * Placed in the public domain by Bryan O'Sullivan 0: * 0: * This program is not covered by patents in the United States or other 0: * countries. 0: */ 0: 0: #include <stdio.h> 0: 0: int main(int argc, char **argv) 0: { 0: printf("hello, world!\n"); 3: printf("sure am glad I'm using Mercurial!\n"); 0: return 0; 0: }
เรามาลองดูกันว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสองมีการแก้ไขที่ขัดแย้งกันเราจะทำอย่างไรในบท รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน