Size: 19371
Comment: Changed tutorial index link to Thai index
|
Size: 20693
Comment: Edit contents to make reading easier.
|
Deletions are marked like this. | Additions are marked like this. |
Line 1: | Line 1: |
== บทเรียน - รวมการแก้ไขจากหลายๆ repository == ''(หน้านี้เป็นหน้าที่ 7 จาก 9 ของ[:ThaiTutorial:บทเรียน]การใช้งาน Mercurial หน้าก่อนหน้าคือ [:ThaiTutorialExport], หน้าถัดไปคือ [:ThaiTutorialConflict])'' ใน [:ThaiTutorialExport] เราได้เรียนวิธีการแบ่งปันการแก้ไขกับบุคคลอื่น ในบทนี้เราจะเรียนรู้วิธีการ[:Merge:รวมการแก้ไข]โดยการ[:Pull:ดึงการแก้ไข]จาก [:Repository:repository] ที่มีการแก้ไขที่แตกต่างกัน ก่อนอื่นเราจะต้องสร้าง repository สำหรับรวมการแก้ไข เราต้อง[:Clone:ทำสำเนา] `my-hello` repository อีกแล้ว: |
== บทเรียน - รวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่น == ''(บทนี้เป็นบทที่ 7 จาก 9 บทของ[:ThaiTutorial:บทเรียนการใช้งาน Mercurial] บทก่อนหน้าคือ [:ThaiTutorialExport:แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับบุคคลอื่นๆ], บทถัดไปคือ [:ThaiTutorialConflict:รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน])'' ใน[:ThaiTutorialExport:บทที่แล้ว]เราได้เรียนวิธีการแบ่งปันการแก้ไขกับบุคคลอื่นโดยการส่งออกการแก้ไข ในบทนี้เราจะเรียนรู้วิธีการ[:Merge:รวมการแก้ไข]โดยการ[:Pull:ดึงการแก้ไข]จาก [:Repository:repository] อื่น ก่อนอื่นเราจะต้องสร้าง repository สำหรับเป็นที่รวมการแก้ไขซะก่อนโดย[:Clone:ทำสำเนา] repository `my-hello` อีกครั้ง: |
Line 16: | Line 16: |
ทีนี้เราจะแก้ไฟล์ `hello.c` โดยเพิ่มคำอธิบายในส่วนคอมเม้นต์ | เราจะแก้ไฟล์ `hello.c` โดยเพิ่มคำอธิบายในส่วนคอมเม้นต์ |
Line 35: | Line 35: |
จากนั้นเราต้องบันทึกและปิด editor และ[:Commit:คอมมิท]การแก้ไขของเรา ครั้งนี้เราจะประหยัดเวลาลงหน่อยนึงโดยการใช้ตัวเลือก `-m` กับคำสั่ง `commit` เพื่อจะได้ไม่ต้องไปพิมพ์คำอธิบาย changeset ใน editor: | จากนั้นเราต้องบันทึกและปิดโปรแกรม editor และ[:Commit:คอมมิท]การแก้ไขของเรา ครั้งนี้เราจะประหยัดเวลาลงหน่อยโดยการใช้ตัวเลือก `-m` กับคำสั่ง `commit` เพื่อใส่คำอธิบายของเซ็ตการแก้ไขที่เราจะคอมมิทเลยแทนที่จะใช้โปรแกรม editor: |
Line 41: | Line 41: |
ตอนนี้เรามีการแก้ไขครั้งนึงกับไฟล์ `hello.c` ใน repository `my-hello-new-output` และอีกการแก้ไขนึงกับไฟล์ `hello.c` ใน repository `my-hello-desc` เราจะ''รวม''การแก้ไขที่แตกต่างกันในสอง repository นี้ยังไงล่ะ? และจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าถ้าเราต้องการดึงการเปลี่ยนแปลงจาก repository นึงไปในอีก repository นึง? ไม่ต้องเป็นห่วง จะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ระหว่างที่เราอยู่ใน `my-hello-desc` เราสามารถลองดึงการแก้ไขจาก `my-hello-new-output` และดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น: |
ตอนนี้ไฟล์ `hello.c` ใน repository `my-hello-new-output` และ repository `my-hello-desc` ต่างก็ถูกแก้ไข เราจะ''รวมการแก้ไข''ที่แตกต่างกันในสอง repository นี้ยังไงล่ะ? และจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าถ้าเราต้องการดึงประวัติการเปลี่ยนแปลงจาก repository นึงไปอีก repository นึง? ไม่ต้องห่วง การทำแบบนี้จะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ตอนนี้ระหว่างที่เราอยู่ใน `my-hello-desc` เรามาลองดึงประวัติการแก้ไขจาก `my-hello-new-output` และดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น: |
Line 56: | Line 56: |
Mercurial บอกว่ามันได้เพิ่ม [:Head:head] อีกอันนึงใน repository ของเรา ถ้าเราอยากดู heads เราต้องใช้คำสั่ง `heads`: | Mercurial บอกว่ามันได้เพิ่ม[:Head:ส่วนยอด]อีกอันนึงใน repository ของเรา ถ้าเราอยากดูส่วนยอดทั้งหมดเราต้องใช้คำสั่ง `heads`: |
Line 73: | Line 73: |
Mercurial มาพร้อมกับ [:UsingExtensions:extension] ที่สามารถแสดงกราฟประวัติการแก้ไขของ repository ในแบบ ASCII ได้นั่นก็คือ: [:GraphlogExtension] คุณเพียงแค่ต้องใช้งาน extension นี้ในไฟล์ `~/.hgrc` ของคุณ (หรือในไฟล์ `Mercurial.ini` ในวินโดวส์) โดยเพิ่มบรรทัด {{{hgext.graphlog = }}} ในส่วน `[extensions]` แบบนี้: | ถ้าคุณสนใจ Mercurial มาพร้อมกับ[:UsingExtensions:ส่วนเพิ่มความสามารถ]ที่สามารถแสดงกราฟประวัติการแก้ไขของ repository ในแบบ ASCII ได้นั่นก็คือ: [:GraphlogExtension] คุณเพียงแค่ต้องเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้ในไฟล์ `~/.hgrc` ของคุณ (หรือในไฟล์ `Mercurial.ini` ในวินโดวส์) โดยเพิ่มบรรทัด {{{hgext.graphlog = }}} ในส่วน `[extensions]` แบบนี้: |
Line 80: | Line 80: |
หลังจากคุณเริ่มใช้งาน extension นี้แล้วคุณจะสามารถใช้คำสั่งใหม่คือ `glog` ได้ทันที (ลองดู `hg help glog`): | หลังจากคุณเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้แล้วคุณจะสามารถใช้คำสั่งใหม่คือ `glog` ได้ทันที (ลองดู `hg help glog`): |
Line 107: | Line 107: |
ในกราฟนี้ คุณจะเห็นว่าเราได้ดึง changeset `86794f718fb1` เข้ามาใน repository (ซึ่งก็เป็น[:Tip:ปลาย]ของ repository ด้วย) เนื่องจากว่าทั้ง changeset `86794f718fb1` และ `c3844fde99f0` ของเราถูกคอมมิทโดยมี changeset ฐานเดียวกันคือ `82e55d328c8c` ([:Parent:บรรพบุรุษ]) จึงเกิดกิ่งการแก้ไขที่แยกกัน – หรือที่มีชื่อเรียกสั้นๆว่า [:Branch:branch] ในตัวอย่างนี้ branch จะมีชีวิตที่ค่อนข้างสั้น และการจัดการกับการแตกกิ่งแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากใน Mercurial ระหว่างที่ดูผลลัพธ์ของคำสั่ง `pull` คุณอาจจะคิดว่ามันดูคล้ายๆกับผลลัพธ์ในบท [:ThaiTutorialShareChange] นี่นา เพราะอย่างนั้นคุณอาจจะถามว่า: ทำไมไม่ลองใช้คำสั่ง [:Update:update] เลยล่ะ อย่างที่เราทำในบท !ThaiTutorialShareChange? ไม่มีปัญหา เรามาลองดูและดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น: |
ในกราฟด้านบนคุณจะเห็นว่าเราได้ดึงเซ็ตการแก้ไข `86794f718fb1` เข้ามาใน repository (ซึ่งก็เป็น[:Tip:ส่วนปลาย]ของ repository ด้วย) เนื่องจากว่าทั้งเซ็ตการแก้ไข `86794f718fb1` และ `c3844fde99f0` ของเราถูกคอมมิทโดยมีเซ็ตการแก้ไข[:Parent:บรรพบุรุษ]เดียวกันคือ `82e55d328c8c` จึงเกิด[:Branch:กิ่ง]การแก้ไขที่แยกจากกัน ในตัวอย่างนี้กิ่งแต่ละกิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างสั้น การจัดการกับการแตกกิ่งแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากใน Mercurial ระหว่างที่ดูผลลัพธ์ของคำสั่ง `pull` คุณอาจจะคิดว่ามันก็ดูคล้ายๆกับผลลัพธ์ในบท[:ThaiTutorialShareChange:แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับ repository อื่น]นี่นา เพราะอย่างนั้นคุณอาจจะถามว่า: ทำไมไม่ลองใช้คำสั่ง [:Update:update] เลยล่ะ? ไม่มีปัญหา เรามาลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทำอย่างที่ว่า: |
Line 116: | Line 116: |
โอ๊ะโอ มีบางอย่างที่แตกต่างไปแล้ว อย่างที่คุณเห็น Mercurial ระมัดระวังมากและไม่พยายามทำอะไรโง่ๆถ้าเรามองข้ามการแจ้งเตือน "(+1 heads)" หลังจากที่เราใช้คำสั่ง `pull` เพราะฉะนั้นเราสามารถแน่ใจได้ว่า Mercurial จะเตือนเราดีๆว่าเราน่าจะทำอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ เราควรจะรวมการแก้ไข แต่ก่อนที่เราจะรวมการแก้ไขเรามาตรวจสอบก่อนดีกว่าว่าตอนนี้เรากำลังทำงานอยู่กับ changeset ไหน เราสามารถใช้คำสั่ง `parents` เพื่อการนี้ (ดู [:Parent]): |
โอ๊ะโอ มีบางอย่างที่แตกต่างไปแล้ว อย่างที่คุณเห็น Mercurial ระมัดระวังและพยายามที่จะไม่ทำอะไรแย่ๆถ้าเราไม่ทันเห็นสถานะ "(+1 heads)" ตรงท้ายๆผลลัพธ์ของคำสั่ง `pull` Mercurial จะเตือนเราดีๆว่าเราน่าจะทำอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งในกรณีนี้ก็คือเราน่าจะรวมประวัติการแก้ไข ก่อนที่เราจะรวมประวัติการแก้ไขเรามาตรวจสอบกันก่อนดีกว่าว่าตอนนี้เรากำลังทำงานอยู่กับ changeset ไหนโดยใช้คำสั่ง `parents` (ดู [:Parent:บรรพบุรุษ]): |
Line 128: | Line 128: |
คำสั่งนี้บอกเราว่าตอนนี้[:WorkingDirectory:ไดเร็คทอรี่ทำงาน]ของเราอิงกับ changeset `c3844fde99f0` – ซึ่งก็แน่นอนเพราะว่านั่นเป็น changeset ที่เราเพิ่งคอมมิทไป สิ่งสำคัญที่เราจะต้องเข้าใจก็คือ การดึงการแก้ไขเข้ามาเป็นการดึงมาเก็บไว้ที่ ''store'' ของ repository ของเราเท่านั้นแต่ไม่ได้แก้ไขข้อมูลใดๆในไดเร็คทอรี่ทำงานของเราเลยแม้แต่น้อย ลองดูผลลัพธ์ของคำสั่ง `glog` อีกทีสิ: มี changeset นึงที่ถูกให้สัญลักษณ์ด้วยเครื่องหมาย "`@`" นั่นหมายความว่า changeset นั้นเป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่ที่เรากำลังทำงานอยู่ หรืออีกนัยนึงก็คือ เรากำลัง "อยู่ที่" `c3844fde99f0` โอเค เรามาลองรวมการแก้ไขกันเลยดีกว่า การรวมการแก้ไขฟังดูค่อนข้างยากเนอะ? แต่จริงๆแล้วมันเป็นอะไรที่ง่ายมาก เรามาลองทำตามขั้นตอนที่อยู่ในบรรทัดสุดท้ายของผลลัพธ์จากคำสั่ง `pull` กันดู: |
คำสั่งนี้บอกเราว่าตอนนี้[:WorkingDirectory:ไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงาน]ของเราตรงกับเซ็ตการแก้ไข `c3844fde99f0` อยู่ – ซึ่งก็แน่นอนเพราะว่านั่นเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งคอมมิทไป สิ่งสำคัญที่เราจะต้องเข้าใจก็คือ การดึงประวัติการแก้ไขเป็นการดึงมาเก็บไว้ที่''ที่จัดเก็บประวัติ''ของ repository เท่านั้น แต่ไม่ได้อัพเดทข้อมูลใดๆในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราเลยแม้แต่น้อย ลองดูผลลัพธ์ของคำสั่ง `glog` อีกทีสิ: มีเซ็ตการแก้ไขนึงที่ถูกให้สัญลักษณ์ด้วยเครื่องหมาย "`@`" นั่นก็หมายความว่าเซ็ตการแก้ไขนั้นเป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่ที่เรากำลังทำงานอยู่ หรือจะพูดอีกแบบก็คือเรากำลังทำงาน"อยู่ตรง"เซ็ตการแก้ไข `c3844fde99f0` โอเค อธิบายมาซะยาวจนเบื่อแล้ว เรามาลองรวมการแก้ไขกันเลยดีกว่า การรวมการแก้ไขฟังดูค่อนข้างยากเนอะ? แต่จริงๆแล้วมันเป็นอะไรที่ง่ายมาก ลองทำตามคำแนะนำจาก Mercurial ที่อยู่ในบรรทัดสุดท้ายของผลลัพธ์จากคำสั่ง `pull` ดู: |
Line 139: | Line 139: |
แค่นั้นแหละ! Mercurial ได้ทำการรวมการเปลี่ยนแปลงให้คุณโดยอัตโนมัติเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งสองนั้นไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย (เราจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีความขัดแย้งในบท [:ThaiTutorialConflict]) ทีนี้ถ้าเราลองดูเนื้อหาของไฟล์ `hello.c` ในไดเร็คทอรี่ทำงานเราจะเห็นว่าไฟล์มีเนื้อหาจากการเปลี่ยนแปลงทั้งที่มาจาก `my-hello-new-output` และ `my-hello-desc` ตามคาด เวลาที่คุณทำงานกับการแก้ไขจากคนอื่น กรณีตัวอย่างนี้เป็นกรณีที่จะเกิดขึ้นบ่อยเป็นที่สอง กรณีที่เกิดบ่อยที่คุณนั้นยิ่งง่ายกว่านี้อีกนั่นก็คือการแก้ไขทั้งสองเป็นการแก้ไขที่เกิดขึ้นกับคนละไฟล์ ซึ่งก็หมายความว่าเวลาคุณใช้คำสั่ง `merge` จะไม่มี''ไฟล์''อะไรที่จะต้องรวมการแก้ไขด้วยซ้ำ โอเค ตอนนี้เรายังไม่ได้คอมมิทผลของการรวม ก่อนที่เราจะทำลองมาดูกันว่าผลลัพธ์ของคำสั่ง `parents` จะเป็นยังไง (เราใช้คำสั่งย่อ `par`): |
เรียบร้อย! Mercurial รวมการเปลี่ยนแปลงให้คุณโดยอัตโนมัติเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งสองนั้นไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย (เราจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีความขัดแย้งใน[:ThaiTutorialConflict:บทถัดไป]) ถ้าเราลองดูเนื้อหาของไฟล์ `hello.c` ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานเราจะเห็นว่าไฟล์มีเนื้อหาจากการเปลี่ยนแปลงที่มาจาก `my-hello-new-output` และ `my-hello-desc` ทั้งคู่ตามที่คาดไว้ โดยทั่วๆไป กรณีตัวอย่างนี้เป็นกรณีที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยเป็นอันดับสอง กรณีที่เกิดบ่อยที่สุดนั้นยิ่งง่ายกว่านี้อีก นั่นก็คือการแก้ไขทั้งสองที่ถูกรวมเป็นการแก้ไขที่เกิดขึ้นกับคนละไฟล์ ซึ่งก็หมายความว่าเวลาคุณใช้คำสั่ง `merge` จะไม่มี''ไฟล์''อะไรที่จะต้องรวมเนื้อหาด้วยซ้ำ ตอนนี้เรายังไม่ได้คอมมิทผลของการรวมการแก้ไข ก่อนที่เราจะทำลองมาดูกันว่าผลลัพธ์ของคำสั่ง `parents` จะเป็นยังไง (เราใช้คำสั่งย่อ `par`): |
Line 160: | Line 160: |
คำสั่งนี้บอกเราว่าไดเร็คทอรี่ทำงานของเรานั้นอิงกับ changesets ''สอง''อัน: หรือจะเรียกว่ามีบรรพบุรุษสองอันก็ได้ สังเกตุว่าบรรพบุรุษทั้งสองได้ถูกเรียงลำดับ: บรรพบุรุษแรก (parent 1) คือ changeset ก่อนหน้าของเรานั่นก็คือ `c3844fde99f0` ที่เราเพิ่มคำอธิบายใน `hello.c` changeset นี้เป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่ทำงานของเราก่อนที่เราจะใช้คำสั่ง `merge` ส่วนบรรพบุรุษที่สอง (parent 2) คือ changeset `86794f718fb1` ซึ่งเราได้ดึงมาจากอีก repository นึงและเป็น changeset ที่เราเพิ่งรวมเข้าไป ลองใช้คำสั่ง `glog` อีกทีแล้วเราจะเห็นว่าสัญลักษณ์ `@` อยู่กับบรรพบุรุษทั้งสองแล้ว: |
คำสั่งนี้บอกเราว่าไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเรานั้นมีเซ็ตการแก้ไขที่เป็นบรรพบุรุษ''สอง''เซ็ต โดยสังเกตุว่าบรรพบุรุษทั้งสองได้ถูกเรียงลำดับดังนี้: บรรพบุรุษแรก (parent 1) คือเซ็ตการแก้ไขก่อนหน้าของเรานั่นก็คือ `c3844fde99f0` ที่เราเพิ่มคำอธิบายใน `hello.c` ซึ่งเซ็ตการแก้ไขนี้เป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราก่อนที่เราจะใช้คำสั่ง `merge` ส่วนบรรพบุรุษเซ็ตที่สอง (parent 2) คือ `86794f718fb1` ซึ่งเราได้ดึงมาจากอีก repository นึงและเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งรวมเข้าไป ลองใช้คำสั่ง `glog` อีกทีแล้วเราจะเห็นว่าสัญลักษณ์ `@` อยู่ที่บรรพบุรุษทั้งสองแล้ว: |
Line 189: | Line 189: |
/!\ หมายเหตุ: ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจและต้องการยกเลิกการรวมก่อนที่จะคอมมิทอะไร คุณจะต้องใช้คำสั่ง "`hg update -C -r.`" เพื่อย้อนกลับไปที่ revision 2 การใช้คำสั่ง `hg revert -r2 --all` จะแค่ยกเลิกการรวมเนื้อหาของไฟล์ในไดเร็คทอรี่ทำงานของคุณ แต่จะ __ไม่แก้ไขบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่ทำงานกลับเป็นบรรพบุรุษเดียว__ (ดู [:Revert]) | /!\ หมายเหตุ: ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจและต้องการยกเลิกการรวมก่อนที่จะคอมมิทอะไร คุณจะต้องใช้คำสั่ง "`hg update -C -r`" เพื่อย้อนกลับไปที่ revision 2 การใช้คำสั่ง `hg revert -r2 --all` จะแค่ยกเลิกการรวมเนื้อหาของไฟล์ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของคุณ แต่จะ __ไม่แก้ไขบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานกลับเป็นบรรพบุรุษเดียว__ (ดู [:Revert]) |
Line 197: | Line 197: |
คำสั่งนี้จะไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ ตอนนี้การรวมไฟล์ได้ถูกบันทึกใน store ของ repository เราเป็น [:MergeChangeset:merge changeset] ใหม่แล้วและเราสามารถดูประวัติได้โดยใช้คำสั่ง `glog`: | คำสั่งนี้จะไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ การรวมไฟล์ได้ถูกบันทึกในที่จัดเก็บประวัติของ repository เป็น[:MergeChangeset:เซ็ทการแก้ไขรวม]ใหม่แล้ว และเราสามารถดูประวัติได้โดยใช้คำสั่ง `glog`: |
Line 231: | Line 231: |
เรายังสามารถแสดงเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงในการรวมไฟล์โดยใช้คำสั่ง `annotate` เพื่อแสดงข้อมูลของ changeset ในแต่ละบรรทัดของไฟล์ได้ หมายเหตุ: revision 2 คือการแก้ไขที่เราทำกับ repository `my-hello-desc` และ revision 3 คือการแก้ไขที่เราดึงมาจาก `my-hello-new-output` แะรวมเข้าไปกับ repository `my-hello-desc` |
เรายังสามารถแสดงเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงในการรวมไฟล์โดยใช้คำสั่ง `annotate` เพื่อแสดงข้อมูลของเซ็ตการแก้ไขในแต่ละบรรทัดของไฟล์ได้ หมายเหตุ: การแก้ไขครั้งที่ 2 คือการแก้ไขที่เราทำกับ repository `my-hello-desc` และการแก้ไขครั้งที่ 3 คือการแก้ไขที่เราดึงมาจาก `my-hello-new-output` เพื่อรวมเข้าไปกับ repository `my-hello-desc` |
Line 255: | Line 255: |
เรามาลองดูกันว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสองมีการแก้ไขที่[:Conflict:ขัดแย้ง]เราจะทำอย่างไรในบท [:ThaiTutorialConflict] | เรามาลองดูกันว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสองมีการแก้ไขที่[:Conflict:ขัดแย้ง]กันเราจะทำอย่างไรในบท [:ThaiTutorialConflict:รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน] |
Line 259: | Line 259: |
CategoryThai |
บทเรียน - รวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่น
(บทนี้เป็นบทที่ 7 จาก 9 บทของ[:ThaiTutorial:บทเรียนการใช้งาน Mercurial] บทก่อนหน้าคือ [:ThaiTutorialExport:แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับบุคคลอื่นๆ], บทถัดไปคือ [:ThaiTutorialConflict:รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน])
ใน[:ThaiTutorialExport:บทที่แล้ว]เราได้เรียนวิธีการแบ่งปันการแก้ไขกับบุคคลอื่นโดยการส่งออกการแก้ไข ในบทนี้เราจะเรียนรู้วิธีการ[:Merge:รวมการแก้ไข]โดยการ[:Pull:ดึงการแก้ไข]จาก [:Repository:repository] อื่น
ก่อนอื่นเราจะต้องสร้าง repository สำหรับเป็นที่รวมการแก้ไขซะก่อนโดย[:Clone:ทำสำเนา] repository my-hello อีกครั้ง:
$ cd .. $ hg clone my-hello my-hello-desc updating working directory 2 files updated, 0 files merged, 0 files removed, 0 files unresolved
เราจะแก้ไฟล์ hello.c โดยเพิ่มคำอธิบายในส่วนคอมเม้นต์
$ cd my-hello-desc $ vi hello.c
เปลี่ยนบรรทัดที่สองจาก:
* hello.c
เป็น:
* hello.c - hello, world
จากนั้นเราต้องบันทึกและปิดโปรแกรม editor และ[:Commit:คอมมิท]การแก้ไขของเรา ครั้งนี้เราจะประหยัดเวลาลงหน่อยโดยการใช้ตัวเลือก -m กับคำสั่ง commit เพื่อใส่คำอธิบายของเซ็ตการแก้ไขที่เราจะคอมมิทเลยแทนที่จะใช้โปรแกรม editor:
$ hg commit -m "Add description of hello.c"
ตอนนี้ไฟล์ hello.c ใน repository my-hello-new-output และ repository my-hello-desc ต่างก็ถูกแก้ไข เราจะรวมการแก้ไขที่แตกต่างกันในสอง repository นี้ยังไงล่ะ? และจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าถ้าเราต้องการดึงประวัติการเปลี่ยนแปลงจาก repository นึงไปอีก repository นึง?
ไม่ต้องห่วง การทำแบบนี้จะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ตอนนี้ระหว่างที่เราอยู่ใน my-hello-desc เรามาลองดึงประวัติการแก้ไขจาก my-hello-new-output และดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น:
$ hg pull ../my-hello-new-output pulling from ../my-hello-new-output searching for changes adding changesets adding manifests adding file changes added 1 changesets with 1 changes to 1 files (+1 heads) (run 'hg heads' to see heads, 'hg merge' to merge)
Mercurial บอกว่ามันได้เพิ่ม[:Head:ส่วนยอด]อีกอันนึงใน repository ของเรา ถ้าเราอยากดูส่วนยอดทั้งหมดเราต้องใช้คำสั่ง heads:
$ hg heads changeset: 3:86794f718fb1 tag: tip parent: 1:82e55d328c8c user: mpm@selenic.com date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 summary: Express great joy at existence of Mercurial changeset: 2:c3844fde99f0 user: mpm@selenic.com date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 summary: Add description of hello.c
ถ้าคุณสนใจ Mercurial มาพร้อมกับ[:UsingExtensions:ส่วนเพิ่มความสามารถ]ที่สามารถแสดงกราฟประวัติการแก้ไขของ repository ในแบบ ASCII ได้นั่นก็คือ: [:GraphlogExtension] คุณเพียงแค่ต้องเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้ในไฟล์ ~/.hgrc ของคุณ (หรือในไฟล์ Mercurial.ini ในวินโดวส์) โดยเพิ่มบรรทัด hgext.graphlog = ในส่วน [extensions] แบบนี้:
[extensions] hgext.graphlog =
หลังจากคุณเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้แล้วคุณจะสามารถใช้คำสั่งใหม่คือ glog ได้ทันที (ลองดู hg help glog):
$ hg glog o changeset: 3:86794f718fb1 | tag: tip | parent: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 | summary: Express great joy at existence of Mercurial | | @ changeset: 2:c3844fde99f0 |/ user: mpm@selenic.com | date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 | summary: Add description of hello.c | o changeset: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700 | summary: Create a makefile | o changeset: 0:0a04b987be5a user: mpm@selenic.com date: Fri Aug 26 01:20:50 2005 -0700 summary: Create a standard "hello, world" program
ในกราฟด้านบนคุณจะเห็นว่าเราได้ดึงเซ็ตการแก้ไข 86794f718fb1 เข้ามาใน repository (ซึ่งก็เป็น[:Tip:ส่วนปลาย]ของ repository ด้วย) เนื่องจากว่าทั้งเซ็ตการแก้ไข 86794f718fb1 และ c3844fde99f0 ของเราถูกคอมมิทโดยมีเซ็ตการแก้ไข[:Parent:บรรพบุรุษ]เดียวกันคือ 82e55d328c8c จึงเกิด[:Branch:กิ่ง]การแก้ไขที่แยกจากกัน ในตัวอย่างนี้กิ่งแต่ละกิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างสั้น การจัดการกับการแตกกิ่งแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากใน Mercurial
ระหว่างที่ดูผลลัพธ์ของคำสั่ง pull คุณอาจจะคิดว่ามันก็ดูคล้ายๆกับผลลัพธ์ในบท[:ThaiTutorialShareChange:แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับ repository อื่น]นี่นา เพราะอย่างนั้นคุณอาจจะถามว่า: ทำไมไม่ลองใช้คำสั่ง [:Update:update] เลยล่ะ? ไม่มีปัญหา เรามาลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทำอย่างที่ว่า:
$ hg update abort: update spans branches, use 'hg merge' or 'hg update -C' to lose changes
โอ๊ะโอ มีบางอย่างที่แตกต่างไปแล้ว อย่างที่คุณเห็น Mercurial ระมัดระวังและพยายามที่จะไม่ทำอะไรแย่ๆถ้าเราไม่ทันเห็นสถานะ "(+1 heads)" ตรงท้ายๆผลลัพธ์ของคำสั่ง pull Mercurial จะเตือนเราดีๆว่าเราน่าจะทำอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งในกรณีนี้ก็คือเราน่าจะรวมประวัติการแก้ไข
ก่อนที่เราจะรวมประวัติการแก้ไขเรามาตรวจสอบกันก่อนดีกว่าว่าตอนนี้เรากำลังทำงานอยู่กับ changeset ไหนโดยใช้คำสั่ง parents (ดู [:Parent:บรรพบุรุษ]):
$ hg parents changeset: 2:c3844fde99f0 user: mpm@selenic.com date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 summary: Add description of hello.c
คำสั่งนี้บอกเราว่าตอนนี้[:WorkingDirectory:ไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงาน]ของเราตรงกับเซ็ตการแก้ไข c3844fde99f0 อยู่ – ซึ่งก็แน่นอนเพราะว่านั่นเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งคอมมิทไป สิ่งสำคัญที่เราจะต้องเข้าใจก็คือ การดึงประวัติการแก้ไขเป็นการดึงมาเก็บไว้ที่ที่จัดเก็บประวัติของ repository เท่านั้น แต่ไม่ได้อัพเดทข้อมูลใดๆในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราเลยแม้แต่น้อย ลองดูผลลัพธ์ของคำสั่ง glog อีกทีสิ: มีเซ็ตการแก้ไขนึงที่ถูกให้สัญลักษณ์ด้วยเครื่องหมาย "@" นั่นก็หมายความว่าเซ็ตการแก้ไขนั้นเป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่ที่เรากำลังทำงานอยู่ หรือจะพูดอีกแบบก็คือเรากำลังทำงาน"อยู่ตรง"เซ็ตการแก้ไข c3844fde99f0
โอเค อธิบายมาซะยาวจนเบื่อแล้ว เรามาลองรวมการแก้ไขกันเลยดีกว่า การรวมการแก้ไขฟังดูค่อนข้างยากเนอะ? แต่จริงๆแล้วมันเป็นอะไรที่ง่ายมาก ลองทำตามคำแนะนำจาก Mercurial ที่อยู่ในบรรทัดสุดท้ายของผลลัพธ์จากคำสั่ง pull ดู:
$ hg merge merging hello.c 0 files updated, 1 files merged, 0 files removed, 0 files unresolved (branch merge, don't forget to commit)
เรียบร้อย! Mercurial รวมการเปลี่ยนแปลงให้คุณโดยอัตโนมัติเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งสองนั้นไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย (เราจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีความขัดแย้งใน[:ThaiTutorialConflict:บทถัดไป]) ถ้าเราลองดูเนื้อหาของไฟล์ hello.c ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานเราจะเห็นว่าไฟล์มีเนื้อหาจากการเปลี่ยนแปลงที่มาจาก my-hello-new-output และ my-hello-desc ทั้งคู่ตามที่คาดไว้
โดยทั่วๆไป กรณีตัวอย่างนี้เป็นกรณีที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยเป็นอันดับสอง กรณีที่เกิดบ่อยที่สุดนั้นยิ่งง่ายกว่านี้อีก นั่นก็คือการแก้ไขทั้งสองที่ถูกรวมเป็นการแก้ไขที่เกิดขึ้นกับคนละไฟล์ ซึ่งก็หมายความว่าเวลาคุณใช้คำสั่ง merge จะไม่มีไฟล์อะไรที่จะต้องรวมเนื้อหาด้วยซ้ำ
ตอนนี้เรายังไม่ได้คอมมิทผลของการรวมการแก้ไข ก่อนที่เราจะทำลองมาดูกันว่าผลลัพธ์ของคำสั่ง parents จะเป็นยังไง (เราใช้คำสั่งย่อ par):
$ hg par changeset: 2:c3844fde99f0 user: mpm@selenic.com date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 summary: Add description of hello.c changeset: 3:86794f718fb1 tag: tip parent: 1:82e55d328c8c user: mpm@selenic.com date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 summary: Express great joy at existence of Mercurial
คำสั่งนี้บอกเราว่าไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเรานั้นมีเซ็ตการแก้ไขที่เป็นบรรพบุรุษสองเซ็ต โดยสังเกตุว่าบรรพบุรุษทั้งสองได้ถูกเรียงลำดับดังนี้: บรรพบุรุษแรก (parent 1) คือเซ็ตการแก้ไขก่อนหน้าของเรานั่นก็คือ c3844fde99f0 ที่เราเพิ่มคำอธิบายใน hello.c ซึ่งเซ็ตการแก้ไขนี้เป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราก่อนที่เราจะใช้คำสั่ง merge ส่วนบรรพบุรุษเซ็ตที่สอง (parent 2) คือ 86794f718fb1 ซึ่งเราได้ดึงมาจากอีก repository นึงและเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งรวมเข้าไป
ลองใช้คำสั่ง glog อีกทีแล้วเราจะเห็นว่าสัญลักษณ์ @ อยู่ที่บรรพบุรุษทั้งสองแล้ว:
$ hg glog @ changeset: 3:86794f718fb1 | tag: tip | parent: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 | summary: Express great joy at existence of Mercurial | | @ changeset: 2:c3844fde99f0 |/ user: mpm@selenic.com | date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 | summary: Add description of hello.c | o changeset: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700 | summary: Create a makefile | o changeset: 0:0a04b987be5a user: mpm@selenic.com date: Fri Aug 26 01:20:50 2005 -0700 summary: Create a standard "hello, world" program
หมายเหตุ: ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจและต้องการยกเลิกการรวมก่อนที่จะคอมมิทอะไร คุณจะต้องใช้คำสั่ง "hg update -C -r" เพื่อย้อนกลับไปที่ revision 2 การใช้คำสั่ง hg revert -r2 --all จะแค่ยกเลิกการรวมเนื้อหาของไฟล์ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของคุณ แต่จะ ไม่แก้ไขบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานกลับเป็นบรรพบุรุษเดียว (ดู [:Revert])
ขั้นตอนสุดท้ายก็อย่าลืมคอมมิท[:LocalModifications:การแก้ไขในเครื่องของเรา]ตามที่คำสั่ง merge ก่อนหน้าได้แนะนำให้เราทำ:
$ hg commit -m "Merged changes from my-hello-new-output"
คำสั่งนี้จะไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ การรวมไฟล์ได้ถูกบันทึกในที่จัดเก็บประวัติของ repository เป็น[:MergeChangeset:เซ็ทการแก้ไขรวม]ใหม่แล้ว และเราสามารถดูประวัติได้โดยใช้คำสั่ง glog:
$ hg glog @ changeset: 4:d2ecac0134d8 |\ tag: tip | | parent: 2:c3844fde99f0 | | parent: 3:86794f718fb1 | | user: mpm@selenic.com | | date: Tue May 06 23:44:19 2008 +0200 | | summary: Merged changes from my-hello-new-output | | | o changeset: 3:86794f718fb1 | | parent: 1:82e55d328c8c | | user: mpm@selenic.com | | date: Mon May 05 01:20:46 2008 +0200 | | summary: Express great joy at existence of Mercurial | | o | changeset: 2:c3844fde99f0 |/ user: mpm@selenic.com | date: Tue May 06 20:10:35 2008 +0200 | summary: Add description of hello.c | o changeset: 1:82e55d328c8c | user: mpm@selenic.com | date: Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700 | summary: Create a makefile | o changeset: 0:0a04b987be5a user: mpm@selenic.com date: Fri Aug 26 01:20:50 2005 -0700 summary: Create a standard "hello, world" program
เรายังสามารถแสดงเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงในการรวมไฟล์โดยใช้คำสั่ง annotate เพื่อแสดงข้อมูลของเซ็ตการแก้ไขในแต่ละบรรทัดของไฟล์ได้ หมายเหตุ: การแก้ไขครั้งที่ 2 คือการแก้ไขที่เราทำกับ repository my-hello-desc และการแก้ไขครั้งที่ 3 คือการแก้ไขที่เราดึงมาจาก my-hello-new-output เพื่อรวมเข้าไปกับ repository my-hello-desc
$ hg annotate hello.c 0: /* 2: * hello.c - hello, world 0: * 0: * Placed in the public domain by Bryan O'Sullivan 0: * 0: * This program is not covered by patents in the United States or other 0: * countries. 0: */ 0: 0: #include <stdio.h> 0: 0: int main(int argc, char **argv) 0: { 0: printf("hello, world!\n"); 3: printf("sure am glad I'm using Mercurial!\n"); 0: return 0; 0: }
เรามาลองดูกันว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสองมีการแก้ไขที่[:Conflict:ขัดแย้ง]กันเราจะทำอย่างไรในบท [:ThaiTutorialConflict:รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน]