Differences between revisions 4 and 5
Revision 4 as of 2008-11-21 17:28:27
Size: 20693
Comment: Edit contents to make reading easier.
Revision 5 as of 2009-05-19 19:30:55
Size: 20718
Editor: localhost
Comment: converted to 1.6 markup
Deletions are marked like this. Additions are marked like this.
Line 3: Line 3:
''(บทนี้เป็นบทที่ 7 จาก 9 บทของ[:ThaiTutorial:บทเรียนการใช้งาน Mercurial] บทก่อนหน้าคือ [:ThaiTutorialExport:แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับบุคคลอื่นๆ], บทถัดไปคือ [:ThaiTutorialConflict:รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน])''

ใน[:ThaiTutorialExport:บทที่แล้ว]เราได้เรียนวิธีการแบ่งปันการแก้ไขกับบุคคลอื่นโดยการส่งออกการแก้ไข ในบทนี้เราจะเรียนรู้วิธีการ[:Merge:รวมการแก้ไข]โดยการ[:Pull:ดึงการแก้ไข]จาก [:Repository:repository] อื่น

ก่อนอื่นเราจะต้องสร้าง repository สำหรับเป็นที่รวมการแก้ไขซะก่อนโดย[:Clone:ทำสำเนา] repository `my-hello` อีกครั้ง:
''(บทนี้เป็นบทที่ 7 จาก 9 บทของ[[ThaiTutorial|บทเรียนการใช้งาน Mercurial]] บทก่อนหน้าคือ [[ThaiTutorialExport|แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับบุคคลอื่นๆ]], บทถัดไปคือ [[ThaiTutorialConflict|รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน]])''

ใน[[ThaiTutorialExport|บทที่แล้ว]]เราได้เรียนวิธีการแบ่งปันการแก้ไขกับบุคคลอื่นโดยการส่งออกการแก้ไข ในบทนี้เราจะเรียนรู้วิธีการ[[Merge|รวมการแก้ไข]]โดยการ[[Pull|ดึงการแก้ไข]]จาก [[Repository|repository]] อื่น

ก่อนอื่นเราจะต้องสร้าง repository สำหรับเป็นที่รวมการแก้ไขซะก่อนโดย[[Clone|ทำสำเนา]] repository `my-hello` อีกครั้ง:
Line 35: Line 35:
จากนั้นเราต้องบันทึกและปิดโปรแกรม editor และ[:Commit:คอมมิท]การแก้ไขของเรา ครั้งนี้เราจะประหยัดเวลาลงหน่อยโดยการใช้ตัวเลือก `-m` กับคำสั่ง `commit` เพื่อใส่คำอธิบายของเซ็ตการแก้ไขที่เราจะคอมมิทเลยแทนที่จะใช้โปรแกรม editor: จากนั้นเราต้องบันทึกและปิดโปรแกรม editor และ[[Commit|คอมมิท]]การแก้ไขของเรา ครั้งนี้เราจะประหยัดเวลาลงหน่อยโดยการใช้ตัวเลือก `-m` กับคำสั่ง `commit` เพื่อใส่คำอธิบายของเซ็ตการแก้ไขที่เราจะคอมมิทเลยแทนที่จะใช้โปรแกรม editor:
Line 56: Line 56:
Mercurial บอกว่ามันได้เพิ่ม[:Head:ส่วนยอด]อีกอันนึงใน repository ของเรา ถ้าเราอยากดูส่วนยอดทั้งหมดเราต้องใช้คำสั่ง `heads`: Mercurial บอกว่ามันได้เพิ่ม[[Head|ส่วนยอด]]อีกอันนึงใน repository ของเรา ถ้าเราอยากดูส่วนยอดทั้งหมดเราต้องใช้คำสั่ง `heads`:
Line 73: Line 73:
ถ้าคุณสนใจ Mercurial มาพร้อมกับ[:UsingExtensions:ส่วนเพิ่มความสามารถ]ที่สามารถแสดงกราฟประวัติการแก้ไขของ repository ในแบบ ASCII ได้นั่นก็คือ: [:GraphlogExtension] คุณเพียงแค่ต้องเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้ในไฟล์ `~/.hgrc` ของคุณ (หรือในไฟล์ `Mercurial.ini` ในวินโดวส์) โดยเพิ่มบรรทัด {{{hgext.graphlog = }}} ในส่วน `[extensions]` แบบนี้: ถ้าคุณสนใจ Mercurial มาพร้อมกับ[[UsingExtensions|ส่วนเพิ่มความสามารถ]]ที่สามารถแสดงกราฟประวัติการแก้ไขของ repository ในแบบ ASCII ได้นั่นก็คือ: [[GraphlogExtension]] คุณเพียงแค่ต้องเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้ในไฟล์ `~/.hgrc` ของคุณ (หรือในไฟล์ `Mercurial.ini` ในวินโดวส์) โดยเพิ่มบรรทัด {{{hgext.graphlog = }}} ในส่วน `[extensions]` แบบนี้:
Line 107: Line 107:
ในกราฟด้านบนคุณจะเห็นว่าเราได้ดึงเซ็ตการแก้ไข `86794f718fb1` เข้ามาใน repository (ซึ่งก็เป็น[:Tip:ส่วนปลาย]ของ repository ด้วย) เนื่องจากว่าทั้งเซ็ตการแก้ไข `86794f718fb1` และ `c3844fde99f0` ของเราถูกคอมมิทโดยมีเซ็ตการแก้ไข[:Parent:บรรพบุรุษ]เดียวกันคือ `82e55d328c8c` จึงเกิด[:Branch:กิ่ง]การแก้ไขที่แยกจากกัน ในตัวอย่างนี้กิ่งแต่ละกิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างสั้น การจัดการกับการแตกกิ่งแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากใน Mercurial

ระหว่างที่ดูผลลัพธ์ของคำสั่ง `pull` คุณอาจจะคิดว่ามันก็ดูคล้ายๆกับผลลัพธ์ในบท[:ThaiTutorialShareChange:แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับ repository อื่น]นี่นา เพราะอย่างนั้นคุณอาจจะถามว่า: ทำไมไม่ลองใช้คำสั่ง [:Update:update] เลยล่ะ? ไม่มีปัญหา เรามาลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทำอย่างที่ว่า:
ในกราฟด้านบนคุณจะเห็นว่าเราได้ดึงเซ็ตการแก้ไข `86794f718fb1` เข้ามาใน repository (ซึ่งก็เป็น[[Tip|ส่วนปลาย]]ของ repository ด้วย) เนื่องจากว่าทั้งเซ็ตการแก้ไข `86794f718fb1` และ `c3844fde99f0` ของเราถูกคอมมิทโดยมีเซ็ตการแก้ไข[[Parent|บรรพบุรุษ]]เดียวกันคือ `82e55d328c8c` จึงเกิด[[Branch|กิ่ง]]การแก้ไขที่แยกจากกัน ในตัวอย่างนี้กิ่งแต่ละกิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างสั้น การจัดการกับการแตกกิ่งแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากใน Mercurial

ระหว่างที่ดูผลลัพธ์ของคำสั่ง `pull` คุณอาจจะคิดว่ามันก็ดูคล้ายๆกับผลลัพธ์ในบท[[ThaiTutorialShareChange|แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับ repository อื่น]]นี่นา เพราะอย่างนั้นคุณอาจจะถามว่า: ทำไมไม่ลองใช้คำสั่ง [[Update|update]] เลยล่ะ? ไม่มีปัญหา เรามาลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทำอย่างที่ว่า:
Line 118: Line 118:
ก่อนที่เราจะรวมประวัติการแก้ไขเรามาตรวจสอบกันก่อนดีกว่าว่าตอนนี้เรากำลังทำงานอยู่กับ changeset ไหนโดยใช้คำสั่ง `parents` (ดู [:Parent:บรรพบุรุษ]): ก่อนที่เราจะรวมประวัติการแก้ไขเรามาตรวจสอบกันก่อนดีกว่าว่าตอนนี้เรากำลังทำงานอยู่กับ changeset ไหนโดยใช้คำสั่ง `parents` (ดู [[Parent|บรรพบุรุษ]]):
Line 128: Line 128:
คำสั่งนี้บอกเราว่าตอนนี้[:WorkingDirectory:ไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงาน]ของเราตรงกับเซ็ตการแก้ไข `c3844fde99f0` อยู่ – ซึ่งก็แน่นอนเพราะว่านั่นเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งคอมมิทไป สิ่งสำคัญที่เราจะต้องเข้าใจก็คือ การดึงประวัติการแก้ไขเป็นการดึงมาเก็บไว้ที่''ที่จัดเก็บประวัติ''ของ repository เท่านั้น แต่ไม่ได้อัพเดทข้อมูลใดๆในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราเลยแม้แต่น้อย ลองดูผลลัพธ์ของคำสั่ง `glog` อีกทีสิ: มีเซ็ตการแก้ไขนึงที่ถูกให้สัญลักษณ์ด้วยเครื่องหมาย "`@`" นั่นก็หมายความว่าเซ็ตการแก้ไขนั้นเป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่ที่เรากำลังทำงานอยู่ หรือจะพูดอีกแบบก็คือเรากำลังทำงาน"อยู่ตรง"เซ็ตการแก้ไข `c3844fde99f0` คำสั่งนี้บอกเราว่าตอนนี้[[WorkingDirectory|ไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงาน]]ของเราตรงกับเซ็ตการแก้ไข `c3844fde99f0` อยู่ – ซึ่งก็แน่นอนเพราะว่านั่นเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งคอมมิทไป สิ่งสำคัญที่เราจะต้องเข้าใจก็คือ การดึงประวัติการแก้ไขเป็นการดึงมาเก็บไว้ที่''ที่จัดเก็บประวัติ''ของ repository เท่านั้น แต่ไม่ได้อัพเดทข้อมูลใดๆในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราเลยแม้แต่น้อย ลองดูผลลัพธ์ของคำสั่ง `glog` อีกทีสิ: มีเซ็ตการแก้ไขนึงที่ถูกให้สัญลักษณ์ด้วยเครื่องหมาย "`@`" นั่นก็หมายความว่าเซ็ตการแก้ไขนั้นเป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่ที่เรากำลังทำงานอยู่ หรือจะพูดอีกแบบก็คือเรากำลังทำงาน"อยู่ตรง"เซ็ตการแก้ไข `c3844fde99f0`
Line 139: Line 139:
เรียบร้อย! Mercurial รวมการเปลี่ยนแปลงให้คุณโดยอัตโนมัติเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งสองนั้นไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย (เราจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีความขัดแย้งใน[:ThaiTutorialConflict:บทถัดไป]) ถ้าเราลองดูเนื้อหาของไฟล์ `hello.c` ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานเราจะเห็นว่าไฟล์มีเนื้อหาจากการเปลี่ยนแปลงที่มาจาก `my-hello-new-output` และ `my-hello-desc` ทั้งคู่ตามที่คาดไว้ เรียบร้อย! Mercurial รวมการเปลี่ยนแปลงให้คุณโดยอัตโนมัติเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งสองนั้นไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย (เราจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีความขัดแย้งใน[[ThaiTutorialConflict|บทถัดไป]]) ถ้าเราลองดูเนื้อหาของไฟล์ `hello.c` ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานเราจะเห็นว่าไฟล์มีเนื้อหาจากการเปลี่ยนแปลงที่มาจาก `my-hello-new-output` และ `my-hello-desc` ทั้งคู่ตามที่คาดไว้
Line 189: Line 189:
/!\ หมายเหตุ: ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจและต้องการยกเลิกการรวมก่อนที่จะคอมมิทอะไร คุณจะต้องใช้คำสั่ง "`hg update -C -r`" เพื่อย้อนกลับไปที่ revision 2 การใช้คำสั่ง `hg revert -r2 --all` จะแค่ยกเลิกการรวมเนื้อหาของไฟล์ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของคุณ แต่จะ __ไม่แก้ไขบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานกลับเป็นบรรพบุรุษเดียว__ (ดู [:Revert])

ขั้นตอนสุดท้ายก็อย่าลืมคอมมิท[:LocalModifications:การแก้ไขในเครื่องของเรา]ตามที่คำสั่ง `merge` ก่อนหน้าได้แนะนำให้เราทำ:
/!\ หมายเหตุ: ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจและต้องการยกเลิกการรวมก่อนที่จะคอมมิทอะไร คุณจะต้องใช้คำสั่ง "`hg update -C -r`" เพื่อย้อนกลับไปที่ revision 2 การใช้คำสั่ง `hg revert -r2 --all` จะแค่ยกเลิกการรวมเนื้อหาของไฟล์ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของคุณ แต่จะ __ไม่แก้ไขบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานกลับเป็นบรรพบุรุษเดียว__ (ดู [[Revert]])

ขั้นตอนสุดท้ายก็อย่าลืมคอมมิท[[LocalModifications|การแก้ไขในเครื่องของเรา]]ตามที่คำสั่ง `merge` ก่อนหน้าได้แนะนำให้เราทำ:
Line 197: Line 197:
คำสั่งนี้จะไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ การรวมไฟล์ได้ถูกบันทึกในที่จัดเก็บประวัติของ repository เป็น[:MergeChangeset:เซ็ทการแก้ไขรวม]ใหม่แล้ว และเราสามารถดูประวัติได้โดยใช้คำสั่ง `glog`: คำสั่งนี้จะไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ การรวมไฟล์ได้ถูกบันทึกในที่จัดเก็บประวัติของ repository เป็น[[MergeChangeset|เซ็ทการแก้ไขรวม]]ใหม่แล้ว และเราสามารถดูประวัติได้โดยใช้คำสั่ง `glog`:
Line 255: Line 255:
เรามาลองดูกันว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสองมีการแก้ไขที่[:Conflict:ขัดแย้ง]กันเราจะทำอย่างไรในบท [:ThaiTutorialConflict:รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน] เรามาลองดูกันว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสองมีการแก้ไขที่[[Conflict|ขัดแย้ง]]กันเราจะทำอย่างไรในบท [[ThaiTutorialConflict|รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน]]

บทเรียน - รวมประวัติการแก้ไขจาก repository อื่น

(บทนี้เป็นบทที่ 7 จาก 9 บทของบทเรียนการใช้งาน Mercurial บทก่อนหน้าคือ แบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับบุคคลอื่นๆ, บทถัดไปคือ รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน)

ในบทที่แล้วเราได้เรียนวิธีการแบ่งปันการแก้ไขกับบุคคลอื่นโดยการส่งออกการแก้ไข ในบทนี้เราจะเรียนรู้วิธีการรวมการแก้ไขโดยการดึงการแก้ไขจาก repository อื่น

ก่อนอื่นเราจะต้องสร้าง repository สำหรับเป็นที่รวมการแก้ไขซะก่อนโดยทำสำเนา repository my-hello อีกครั้ง:

$ cd ..
$ hg clone my-hello my-hello-desc
updating working directory
2 files updated, 0 files merged, 0 files removed, 0 files unresolved

เราจะแก้ไฟล์ hello.c โดยเพิ่มคำอธิบายในส่วนคอมเม้นต์

$ cd my-hello-desc
$ vi hello.c

เปลี่ยนบรรทัดที่สองจาก:

 * hello.c

เป็น:

 * hello.c - hello, world

จากนั้นเราต้องบันทึกและปิดโปรแกรม editor และคอมมิทการแก้ไขของเรา ครั้งนี้เราจะประหยัดเวลาลงหน่อยโดยการใช้ตัวเลือก -m กับคำสั่ง commit เพื่อใส่คำอธิบายของเซ็ตการแก้ไขที่เราจะคอมมิทเลยแทนที่จะใช้โปรแกรม editor:

$ hg commit -m "Add description of hello.c"

ตอนนี้ไฟล์ hello.c ใน repository my-hello-new-output และ repository my-hello-desc ต่างก็ถูกแก้ไข เราจะรวมการแก้ไขที่แตกต่างกันในสอง repository นี้ยังไงล่ะ? และจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าถ้าเราต้องการดึงประวัติการเปลี่ยนแปลงจาก repository นึงไปอีก repository นึง?

ไม่ต้องห่วง การทำแบบนี้จะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ตอนนี้ระหว่างที่เราอยู่ใน my-hello-desc เรามาลองดึงประวัติการแก้ไขจาก my-hello-new-output และดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น:

$ hg pull ../my-hello-new-output
pulling from ../my-hello-new-output
searching for changes
adding changesets
adding manifests
adding file changes
added 1 changesets with 1 changes to 1 files (+1 heads)
(run 'hg heads' to see heads, 'hg merge' to merge)

Mercurial บอกว่ามันได้เพิ่มส่วนยอดอีกอันนึงใน repository ของเรา ถ้าเราอยากดูส่วนยอดทั้งหมดเราต้องใช้คำสั่ง heads:

$ hg heads
changeset:   3:86794f718fb1
tag:         tip
parent:      1:82e55d328c8c
user:        mpm@selenic.com
date:        Mon May 05 01:20:46 2008 +0200
summary:     Express great joy at existence of Mercurial

changeset:   2:c3844fde99f0
user:        mpm@selenic.com
date:        Tue May 06 20:10:35 2008 +0200
summary:     Add description of hello.c

ถ้าคุณสนใจ Mercurial มาพร้อมกับส่วนเพิ่มความสามารถที่สามารถแสดงกราฟประวัติการแก้ไขของ repository ในแบบ ASCII ได้นั่นก็คือ: GraphlogExtension คุณเพียงแค่ต้องเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้ในไฟล์ ~/.hgrc ของคุณ (หรือในไฟล์ Mercurial.ini ในวินโดวส์) โดยเพิ่มบรรทัด hgext.graphlog =  ในส่วน [extensions] แบบนี้:

[extensions]
hgext.graphlog = 

หลังจากคุณเปิดการใช้งานส่วนเพิ่มความสามารถนี้แล้วคุณจะสามารถใช้คำสั่งใหม่คือ glog ได้ทันที (ลองดู hg help glog):

$ hg glog
o  changeset:   3:86794f718fb1
|  tag:         tip
|  parent:      1:82e55d328c8c
|  user:        mpm@selenic.com
|  date:        Mon May 05 01:20:46 2008 +0200
|  summary:     Express great joy at existence of Mercurial
|
| @  changeset:   2:c3844fde99f0
|/   user:        mpm@selenic.com
|    date:        Tue May 06 20:10:35 2008 +0200
|    summary:     Add description of hello.c
|
o  changeset:   1:82e55d328c8c
|  user:        mpm@selenic.com
|  date:        Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700
|  summary:     Create a makefile
|
o  changeset:   0:0a04b987be5a
   user:        mpm@selenic.com
   date:        Fri Aug 26 01:20:50 2005 -0700
   summary:     Create a standard "hello, world" program

ในกราฟด้านบนคุณจะเห็นว่าเราได้ดึงเซ็ตการแก้ไข 86794f718fb1 เข้ามาใน repository (ซึ่งก็เป็นส่วนปลายของ repository ด้วย) เนื่องจากว่าทั้งเซ็ตการแก้ไข 86794f718fb1 และ c3844fde99f0 ของเราถูกคอมมิทโดยมีเซ็ตการแก้ไขบรรพบุรุษเดียวกันคือ 82e55d328c8c จึงเกิดกิ่งการแก้ไขที่แยกจากกัน ในตัวอย่างนี้กิ่งแต่ละกิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างสั้น การจัดการกับการแตกกิ่งแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากใน Mercurial

ระหว่างที่ดูผลลัพธ์ของคำสั่ง pull คุณอาจจะคิดว่ามันก็ดูคล้ายๆกับผลลัพธ์ในบทแบ่งปันสิ่งที่คุณแก้ไขกับ repository อื่นนี่นา เพราะอย่างนั้นคุณอาจจะถามว่า: ทำไมไม่ลองใช้คำสั่ง update เลยล่ะ? ไม่มีปัญหา เรามาลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทำอย่างที่ว่า:

$ hg update
abort: update spans branches, use 'hg merge' or 'hg update -C' to lose changes

โอ๊ะโอ มีบางอย่างที่แตกต่างไปแล้ว อย่างที่คุณเห็น Mercurial ระมัดระวังและพยายามที่จะไม่ทำอะไรแย่ๆถ้าเราไม่ทันเห็นสถานะ "(+1 heads)" ตรงท้ายๆผลลัพธ์ของคำสั่ง pull Mercurial จะเตือนเราดีๆว่าเราน่าจะทำอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งในกรณีนี้ก็คือเราน่าจะรวมประวัติการแก้ไข

ก่อนที่เราจะรวมประวัติการแก้ไขเรามาตรวจสอบกันก่อนดีกว่าว่าตอนนี้เรากำลังทำงานอยู่กับ changeset ไหนโดยใช้คำสั่ง parents (ดู บรรพบุรุษ):

$ hg parents
changeset:   2:c3844fde99f0
user:        mpm@selenic.com
date:        Tue May 06 20:10:35 2008 +0200
summary:     Add description of hello.c

คำสั่งนี้บอกเราว่าตอนนี้ไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราตรงกับเซ็ตการแก้ไข c3844fde99f0 อยู่ – ซึ่งก็แน่นอนเพราะว่านั่นเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งคอมมิทไป สิ่งสำคัญที่เราจะต้องเข้าใจก็คือ การดึงประวัติการแก้ไขเป็นการดึงมาเก็บไว้ที่ที่จัดเก็บประวัติของ repository เท่านั้น แต่ไม่ได้อัพเดทข้อมูลใดๆในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราเลยแม้แต่น้อย ลองดูผลลัพธ์ของคำสั่ง glog อีกทีสิ: มีเซ็ตการแก้ไขนึงที่ถูกให้สัญลักษณ์ด้วยเครื่องหมาย "@" นั่นก็หมายความว่าเซ็ตการแก้ไขนั้นเป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่ที่เรากำลังทำงานอยู่ หรือจะพูดอีกแบบก็คือเรากำลังทำงาน"อยู่ตรง"เซ็ตการแก้ไข c3844fde99f0

โอเค อธิบายมาซะยาวจนเบื่อแล้ว เรามาลองรวมการแก้ไขกันเลยดีกว่า การรวมการแก้ไขฟังดูค่อนข้างยากเนอะ? แต่จริงๆแล้วมันเป็นอะไรที่ง่ายมาก ลองทำตามคำแนะนำจาก Mercurial ที่อยู่ในบรรทัดสุดท้ายของผลลัพธ์จากคำสั่ง pull ดู:

$ hg merge
merging hello.c
0 files updated, 1 files merged, 0 files removed, 0 files unresolved
(branch merge, don't forget to commit)

เรียบร้อย! Mercurial รวมการเปลี่ยนแปลงให้คุณโดยอัตโนมัติเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งสองนั้นไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย (เราจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีความขัดแย้งในบทถัดไป) ถ้าเราลองดูเนื้อหาของไฟล์ hello.c ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานเราจะเห็นว่าไฟล์มีเนื้อหาจากการเปลี่ยนแปลงที่มาจาก my-hello-new-output และ my-hello-desc ทั้งคู่ตามที่คาดไว้

โดยทั่วๆไป กรณีตัวอย่างนี้เป็นกรณีที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยเป็นอันดับสอง กรณีที่เกิดบ่อยที่สุดนั้นยิ่งง่ายกว่านี้อีก นั่นก็คือการแก้ไขทั้งสองที่ถูกรวมเป็นการแก้ไขที่เกิดขึ้นกับคนละไฟล์ ซึ่งก็หมายความว่าเวลาคุณใช้คำสั่ง merge จะไม่มีไฟล์อะไรที่จะต้องรวมเนื้อหาด้วยซ้ำ

ตอนนี้เรายังไม่ได้คอมมิทผลของการรวมการแก้ไข ก่อนที่เราจะทำลองมาดูกันว่าผลลัพธ์ของคำสั่ง parents จะเป็นยังไง (เราใช้คำสั่งย่อ par):

$ hg par
changeset:   2:c3844fde99f0
user:        mpm@selenic.com
date:        Tue May 06 20:10:35 2008 +0200
summary:     Add description of hello.c

changeset:   3:86794f718fb1
tag:         tip
parent:      1:82e55d328c8c
user:        mpm@selenic.com
date:        Mon May 05 01:20:46 2008 +0200
summary:     Express great joy at existence of Mercurial

คำสั่งนี้บอกเราว่าไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเรานั้นมีเซ็ตการแก้ไขที่เป็นบรรพบุรุษสองเซ็ต โดยสังเกตุว่าบรรพบุรุษทั้งสองได้ถูกเรียงลำดับดังนี้: บรรพบุรุษแรก (parent 1) คือเซ็ตการแก้ไขก่อนหน้าของเรานั่นก็คือ c3844fde99f0 ที่เราเพิ่มคำอธิบายใน hello.c ซึ่งเซ็ตการแก้ไขนี้เป็นบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของเราก่อนที่เราจะใช้คำสั่ง merge ส่วนบรรพบุรุษเซ็ตที่สอง (parent 2) คือ 86794f718fb1 ซึ่งเราได้ดึงมาจากอีก repository นึงและเป็นเซ็ตการแก้ไขที่เราเพิ่งรวมเข้าไป

ลองใช้คำสั่ง glog อีกทีแล้วเราจะเห็นว่าสัญลักษณ์ @ อยู่ที่บรรพบุรุษทั้งสองแล้ว:

$ hg glog
@  changeset:   3:86794f718fb1
|  tag:         tip
|  parent:      1:82e55d328c8c
|  user:        mpm@selenic.com
|  date:        Mon May 05 01:20:46 2008 +0200
|  summary:     Express great joy at existence of Mercurial
|
| @  changeset:   2:c3844fde99f0
|/   user:        mpm@selenic.com
|    date:        Tue May 06 20:10:35 2008 +0200
|    summary:     Add description of hello.c
|
o  changeset:   1:82e55d328c8c
|  user:        mpm@selenic.com
|  date:        Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700
|  summary:     Create a makefile
|
o  changeset:   0:0a04b987be5a
   user:        mpm@selenic.com
   date:        Fri Aug 26 01:20:50 2005 -0700
   summary:     Create a standard "hello, world" program

/!\ หมายเหตุ: ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจและต้องการยกเลิกการรวมก่อนที่จะคอมมิทอะไร คุณจะต้องใช้คำสั่ง "hg update -C -r" เพื่อย้อนกลับไปที่ revision 2 การใช้คำสั่ง hg revert -r2 --all จะแค่ยกเลิกการรวมเนื้อหาของไฟล์ในไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานของคุณ แต่จะ ไม่แก้ไขบรรพบุรุษของไดเร็คทอรี่สำหรับใช้ทำงานกลับเป็นบรรพบุรุษเดียว (ดู Revert)

ขั้นตอนสุดท้ายก็อย่าลืมคอมมิทการแก้ไขในเครื่องของเราตามที่คำสั่ง merge ก่อนหน้าได้แนะนำให้เราทำ:

$ hg commit -m "Merged changes from my-hello-new-output"

คำสั่งนี้จะไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ การรวมไฟล์ได้ถูกบันทึกในที่จัดเก็บประวัติของ repository เป็นเซ็ทการแก้ไขรวมใหม่แล้ว และเราสามารถดูประวัติได้โดยใช้คำสั่ง glog:

$ hg glog
@    changeset:   4:d2ecac0134d8
|\   tag:         tip
| |  parent:      2:c3844fde99f0
| |  parent:      3:86794f718fb1
| |  user:        mpm@selenic.com
| |  date:        Tue May 06 23:44:19 2008 +0200
| |  summary:     Merged changes from my-hello-new-output
| |
| o  changeset:   3:86794f718fb1
| |  parent:      1:82e55d328c8c
| |  user:        mpm@selenic.com
| |  date:        Mon May 05 01:20:46 2008 +0200
| |  summary:     Express great joy at existence of Mercurial
| |
o |  changeset:   2:c3844fde99f0
|/   user:        mpm@selenic.com
|    date:        Tue May 06 20:10:35 2008 +0200
|    summary:     Add description of hello.c
|
o  changeset:   1:82e55d328c8c
|  user:        mpm@selenic.com
|  date:        Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700
|  summary:     Create a makefile
|
o  changeset:   0:0a04b987be5a
   user:        mpm@selenic.com
   date:        Fri Aug 26 01:20:50 2005 -0700
   summary:     Create a standard "hello, world" program

เรายังสามารถแสดงเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงในการรวมไฟล์โดยใช้คำสั่ง annotate เพื่อแสดงข้อมูลของเซ็ตการแก้ไขในแต่ละบรรทัดของไฟล์ได้ หมายเหตุ: การแก้ไขครั้งที่ 2 คือการแก้ไขที่เราทำกับ repository my-hello-desc และการแก้ไขครั้งที่ 3 คือการแก้ไขที่เราดึงมาจาก my-hello-new-output เพื่อรวมเข้าไปกับ repository my-hello-desc

$ hg annotate hello.c
0: /*
2:  * hello.c - hello, world
0:  *
0:  * Placed in the public domain by Bryan O'Sullivan
0:  *
0:  * This program is not covered by patents in the United States or other
0:  * countries.
0:  */
0:
0: #include <stdio.h>
0:
0: int main(int argc, char **argv)
0: {
0:      printf("hello, world!\n");
3:      printf("sure am glad I'm using Mercurial!\n");
0:      return 0;
0: }

เรามาลองดูกันว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสองมีการแก้ไขที่ขัดแย้งกันเราจะทำอย่างไรในบท รวมประวัติการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน


CategoryTutorial CategoryThai

ThaiTutorialMerge (last edited 2009-05-19 19:30:55 by localhost)