⇤ ← Revision 1 as of 2008-11-19 10:32:43
Size: 4724
Comment: Translate TutorialClone to Thai
|
Size: 4701
Comment: Edit contents to make reading easier.
|
Deletions are marked like this. | Additions are marked like this. |
Line 3: | Line 3: |
''(หน้านี้เป็นหน้าที่ 2 จาก 9 ของ [:ThaiTutorial:บทเรียน] การใช้งาน Mercurial หน้าก่อนหน้าคือ [:ThaiTutorialInstall], หน้าถัดไปคือ [:ThaiTutorialHistory])'' | ''(บทนี้เป็นบทที่ 2 จาก 9 บทของ [:ThaiTutorial:บทเรียนการใช้งาน Mercurial] บทก่อนหน้าคือ [:ThaiTutorialInstall:การติดตั้ง Mercurial], บทถัดไปคือ [:ThaiTutorialHistory:ดูประวัติการแก้ไขใน repository])'' |
Line 5: | Line 5: |
คุณได้ทำตาม ThaiTutorialInstall เพื่อติดตั้ง Mercurial แล้วใช่มั๊ย? เยี่ยม! | คุณได้ทำตามขั้นในในบท [:ThaiTutorialInstall:การติดตั้ง Mercurial] เพื่อติดตั้งโปรแกรมแล้วใช่มั๊ย? เยี่ยม! |
Line 7: | Line 7: |
ใน Mercurial เราทำงานต่างๆในสิ่งที่เรียกว่า [:Repository:repository] โดย repository ก็คือไดเร็คทอรี่หนึ่งที่เก็บไฟล์ที่เราต้องการแก้ไข รวมทั้งประวัติของไฟล์เหล่านั้นด้วย | หัวใจของ Mercurial คือ [:Repository:repository] ไอ้เจ้า repository นี้เก็บไฟล์ที่เราต้องการแก้ไข รวมทั้งประวัติของไฟล์เหล่านั้นด้วย |
Line 9: | Line 9: |
วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มใช้งาน Mercurial ก็คือใช้ repository ที่มีไฟล์และประวัติการแก้ไขอยู่บ้างแล้ว | วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มใช้งาน Mercurial ก็คือลองทำ[:Clone:สำเนา]จาก repository ที่มีอยู่ก่อนแล้วโดยใช้คำสั่ง {{{clone}}} คำสั่งนี้จะสร้างสำเนาของ repository ต้นฉบับเป็น repository ส่วนตัวสำหรับไว้ทำงานบนเครื่องตัวเองได้ |
Line 11: | Line 11: |
เราจะต้องใช้คำสั่ง {{{clone}}} เพื่อทำ[:Clone:สำเนา]ของ repository คำสั่งนี้จะสร้างสำเนาทั้งหมดจาก repository อีกอันหนึ่งเพื่อที่เราจะสามารถมี repository ส่วนตัวสำหรับไว้ทำงานบนเครื่องตัวเองได้ ลองทำสำเนาของ "hello, world" repository ที่อยู่ที่ selenic.com กันเถอะ: |
เราลองมาทำสำเนาของ repository "hello, world" ที่อยู่ที่ selenic.com กันเถอะ: |
Line 19: | Line 17: |
ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี คำสั่ง {{{clone}}} จะพิมพ์ผลลัพธ์ดังนี้ (ใน Mercurial 1.0): | ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี คำสั่ง {{{clone}}} จะพิมพ์ผลลัพธ์ดังนี้ (ถ้าใช้ Mercurial 1.0): |
Line 45: | Line 43: |
ซึ่งไฟล์เหล่านี้เหมือนกันกับไฟล์ใน repository ที่เราเพิ่งคัดลอกมาเป๊ะ | เนื้อหาของไฟล์ 2 ไฟล์นี้เหมือนกันกับไฟล์ใน repository ต้นฉบับเป๊ะ |
Line 47: | Line 45: |
'''หมายเหตุ:''' ใน Mercurial แต่ละ repository นั้นอยู่แบบเป็นเอกเทศ เวลาคุณทำสำเนาของ repository สำเนานั้นจะเหมือนกับตัวต้นแบบ ณ ตอนที่คุณทำสำเนาเป๊ะ แต่ว่าการแก้ไขต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นใน repository หนึ่ง ''จะไม่อยู่ใน'' อีก repository จนกว่าคุณจะบอก Mercurial ว่าคุณต้องการ[:Pull:ดูการเปลี่ยนแปลงจาก repository อื่น] หรือให้ repository อื่นๆ[:Push:เห็นการเปลี่ยนแปลงของคุณ] | '''หมายเหตุ:''' ใน Mercurial แต่ละ repository จะอยู่แบบเป็นเอกเทศ เวลาเราทำสำเนา repository สำเนานั้นจะเหมือนกับตัวต้นแบบตอนที่คุณทำสำเนาเป๊ะ แต่ว่าการแก้ไขต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นใน repository หนึ่ง''จะไม่อยู่ใน''อีก repository จนกว่าคุณจะบอก Mercurial ว่าคุณต้องการ[:Pull:ดึงประวัติการแก้ไข]จากอีก repository หรือให้ repository อื่น[:Push:ผลักประวัติการแก้ไข]มาที่ repository ของคุณ |
Line 49: | Line 47: |
โดยปกติ คำสั่ง `hg clone` จะดึงเอา (ลองดู [:Update]) [:Revision:revision] [:Tip:ปลาย]สุดของ repository ใน[:WorkingDirectory:ไดเร็คทอรี่ทำงาน] ของ repository ถ้าคุณต้องการดูว่าตอนนี้ใช้ revision ไหนอยู่ก็สามาถทำได้โดยใช้คำสั่ง [:Parent:parents]: |
โดยปกติคำสั่ง `hg clone` จะ[:Update:อัพเดท][:WorkingDirectory:ไดเร็คทอรี่ทำงาน]ของเราให้เนื้อหาตรงกับเวอร์ชั่น[:Tip:ปลาย]ของ repository โดยอัตโนมัติ ถ้าเราต้องการดูว่าตอนนี้ใช้ revision ไหนอยู่ก็สามาถทำได้โดยใช้คำสั่ง [:Parent:parents]: |
Line 61: | Line 59: |
เอาล่ะ ทีนี้คุณก็สามารถดูประวัติของ repository ที่เราเพิ่งลอกมาได้แล้ว อ่านต่อที่ ThaiTutorialHistory | เอาล่ะ ตอนนี้เมื่อเรามีสำเนาของ repository ให้เล่นแล้ว เราก็สามารถ [:ThaiTutorialHistory:ดูประวัติการแก้ไขใน repository] ได้แล้ว |
บทเรียน - ทำสำเนา repository
(บทนี้เป็นบทที่ 2 จาก 9 บทของ [:ThaiTutorial:บทเรียนการใช้งาน Mercurial] บทก่อนหน้าคือ [:ThaiTutorialInstall:การติดตั้ง Mercurial], บทถัดไปคือ [:ThaiTutorialHistory:ดูประวัติการแก้ไขใน repository])
คุณได้ทำตามขั้นในในบท [:ThaiTutorialInstall:การติดตั้ง Mercurial] เพื่อติดตั้งโปรแกรมแล้วใช่มั๊ย? เยี่ยม!
หัวใจของ Mercurial คือ [:Repository:repository] ไอ้เจ้า repository นี้เก็บไฟล์ที่เราต้องการแก้ไข รวมทั้งประวัติของไฟล์เหล่านั้นด้วย
วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มใช้งาน Mercurial ก็คือลองทำ[:Clone:สำเนา]จาก repository ที่มีอยู่ก่อนแล้วโดยใช้คำสั่ง clone คำสั่งนี้จะสร้างสำเนาของ repository ต้นฉบับเป็น repository ส่วนตัวสำหรับไว้ทำงานบนเครื่องตัวเองได้
เราลองมาทำสำเนาของ repository "hello, world" ที่อยู่ที่ selenic.com กันเถอะ:
$ hg clone http://www.selenic.com/repo/hello my-hello
ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี คำสั่ง clone จะพิมพ์ผลลัพธ์ดังนี้ (ถ้าใช้ Mercurial 1.0):
requesting all changes adding changesets adding manifests adding file changes added 2 changesets with 2 changes to 2 files updating working directory 2 files updated, 0 files merged, 0 files removed, 0 files unresolved
เอาล่ะ ทีนี้เราควรจะเห็นไดเร็คทอรี่ชื่อ my-hello ในไดเร็คทอรี่ปัจจุบัน:
$ ls my-hello
ภายในไดเร็คทอรี่ my-hello เราจะเห็นว่ามีไฟล์อยู่สองไฟล์:
$ ls my-hello Makefile hello.c
เนื้อหาของไฟล์ 2 ไฟล์นี้เหมือนกันกับไฟล์ใน repository ต้นฉบับเป๊ะ
หมายเหตุ: ใน Mercurial แต่ละ repository จะอยู่แบบเป็นเอกเทศ เวลาเราทำสำเนา repository สำเนานั้นจะเหมือนกับตัวต้นแบบตอนที่คุณทำสำเนาเป๊ะ แต่ว่าการแก้ไขต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นใน repository หนึ่งจะไม่อยู่ในอีก repository จนกว่าคุณจะบอก Mercurial ว่าคุณต้องการ[:Pull:ดึงประวัติการแก้ไข]จากอีก repository หรือให้ repository อื่น[:Push:ผลักประวัติการแก้ไข]มาที่ repository ของคุณ
โดยปกติคำสั่ง hg clone จะ[:Update:อัพเดท][:WorkingDirectory:ไดเร็คทอรี่ทำงาน]ของเราให้เนื้อหาตรงกับเวอร์ชั่น[:Tip:ปลาย]ของ repository โดยอัตโนมัติ ถ้าเราต้องการดูว่าตอนนี้ใช้ revision ไหนอยู่ก็สามาถทำได้โดยใช้คำสั่ง [:Parent:parents]:
$ hg parents changeset: 1:82e55d328c8c tag: tip user: mpm@selenic.com date: Fri Aug 26 01:21:28 2005 -0700 summary: Create a makefile
เอาล่ะ ตอนนี้เมื่อเรามีสำเนาของ repository ให้เล่นแล้ว เราก็สามารถ [:ThaiTutorialHistory:ดูประวัติการแก้ไขใน repository] ได้แล้ว